ราวติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar panel railing) หมายถึง ระบบราวที่วางในแนวนอนหรือแนวตั้งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างยึดติดตั้ง ทำหน้าที่เป็นกรอบโครงสร้างที่มั่นคงสำหรับยึดแผงโซลาร์เซลล์เข้าไว้ด้วยกัน ราวเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบโซลาร์เซลล์ทั้งแบบติดตั้งบนหลังคาและแบบติดตั้งบนพื้นดิน โดยทำหน้าที่เป็นชั้นกลางระหว่างโครงสร้างรองรับ (เช่น คานหลังคา หรือเสาตอม่อ) กับแผงโซลาร์เซลล์เอง ราวติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอยคุณภาพสูง (มาตรฐานทั่วไปคือเกรด 6063-T5) หรือเหล็กชุบสังกะสี มีการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพอากาศ เช่น ฝน รังสี UV และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ราวอลูมิเนียมมักมีการเคลือบผิวด้วยกระบวนการอโนไดซ์ (ความหนา ≥10μm) เพื่อเพิ่มความทนทาน ในขณะที่ราวเหล็กใช้การชุบสังกะสีหรือพาวเดอร์โค้ทเพื่อป้องกันสนิม ราวติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ออกแบบให้มีร่องตัวที (T-slots) หรือรูเจาะล่วงหน้าตลอดความยาว เพื่อให้ติดตั้งคลิปยึดแผง (เช่น คลิปปลายสำหรับแผงด้านข้าง และคลิปกลางสำหรับแผงที่อยู่ติดกัน) ได้ง่าย และปรับให้พอดีกับแผงโซลาร์เซลล์หลายขนาด เช่น แผงแบบ 60 เซลล์ 72 เซลล์ หรือ 96 เซลล์ โดยทั่วไปราวจะติดตั้งห่างกันประมาณ 1–1.5 เมตร (ขึ้นอยู่กับขนาดของแผง) เพื่อกระจายแรงน้ำหนักของแผงให้สม่ำเสมอ ป้องกันไม่ให้เกิดการยุบตัวหรือความเครียดในโครงสร้าง ในระบบติดตั้งบนหลังคา ราวจะติดตั้งขนานกับคานหลังคา โดยยึดด้วยตัวยึดที่ยกตัวราวให้สูงกว่าพื้นหลังคาประมาณ 5–10 ซม. เพื่อให้น้ำสามารถไหลระบายได้ ในระบบติดตั้งบนพื้นดิน ราวจะติดตั้งบนคานนอนที่ยึดกับเสาตั้ง โดยปรับมุมเอียงให้เหมาะสมกับการรับแสงอาทิตย์ ความยาวของราวมีหลายขนาด (3–6 เมตร) เพื่อลดจำนวนจุดต่อและลดเวลาในการติดตั้งรวมถึงจุดเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาด การออกแบบต้องสอดคล้องกับมาตรฐาน เช่น IEC 62715 และ UL 2703 เพื่อให้มั่นใจว่าราวติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สามารถรับแรงโหลดได้ตามมาตรฐาน (สูงสุด 6 กิโลนิวตัน/ตารางเมตรสำหรับหิมะ และ 2 กิโลปาสคัลสำหรับลม) ไม่ว่าจะเป็นระบบในระดับครัวเรือน ระดับธุรกิจ หรือระดับโรงไฟฟ้า ราวติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จึงเป็นพื้นฐานที่แข็งแรงและปรับใช้ได้หลากหลาย ช่วยให้การติดตั้งแผงง่ายขึ้น จัดแนวแผงได้แม่นยำ และเสริมความแข็งแรงโดยรวมของระบบโซลาร์เซลล์